วิธีการเลือกผลิตกล่องกระดาษลูกฟูกที่มีความแข็งแรงและปลอดภัย

เราได้ยินคำว่า "กล่องกระดาษลูกฟูก" มานานมาก แล้วมึนคืออะไร ทำไมคนถึงนิยมนำมาขนส่งพัสดุให้ถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัยนั่นเอง ส่วนมากกระดาษลูกฟูกทำมาจากเนื้อเยื่อของกระดาษรีไซเคิล
ความหนาของกระดาษลูกฟูก มีความสำคัญในทุกๆด้าน หลักๆเน้นไปที่การเสริมความแข็งแรงของตัวกล่อง ให้สามารถรองรับน้ำหนักของสินค้าด้านในได้ รวมถึงปกป้องสินค้าให้ปลอดภัยจากการขนส่งนั่นเอง
กล่องกระดาษลูกฟูเป็นแผ่นกระดาษเรียบๆที่สามารถนำมาขึ้นรูปเป็นกล่องกระดาษลูกฟูกได้หลากหลายแบบ ตั้งแต่กล่องไดคัทฝาชน กล่องไดคัทหูหิ้ว กล่องไดคัทหูช้าง กล่องใส่ผลไม้และกล่่องในรูปทรงอื่นๆอีกมากมาย
ก่อนที่จะสั่งผลิตขนาดกล่อง ควรวัดขนาดของสินค้าและจำนวนที่ต้องการใส่ เพื่อที่จะคำนวนขนาดกล่องได้พอดี และเลือกพื้นที่ในกล่องน้อยที่สุด และที่สำคัญคือ เลือกความหนาของกระดาษลูกฟูกให้พอดีกับน้ำหนักสินค้า
กระดาษลูกฟูก ที่มีความหนา 3 ชั้น ประกอบไปด้วยกระดาษแผ่นเรียบ 2 ชั้น และกระดาษแผ่นหนัก 1 ชั้น ที่มีกระดาษแผ่นหยักด้วยก็เพื่อช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการรองรับน้ำหนักของสินค้าในกล่องได้
เป็นกระดาษลูกฟูกแบบหนาพิเศษ 5 ชั้น ประกอบไปด้วย กระดาษแผ่นเรียบ 3 ชั้น ข้างในมีกระดาษแผ่น 2 แผ่น วางกระดาษสลับกัน เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กระดาษลูกฟูกเป็นพิเศษ
กระดาษลูกฟูกมีหลายหลายแบบ หลากหลายสไตล์ให้ได้เลือกใช้ เพราะความต้องการของแต่ละแบรนด์ แต่ละสินค้าไม่เหมือนกัน เลือกได้ทั้งสีของกระดาษ ความหนาของกระดาษลูกฟูกให้เหมาะสมกับสินค้ามากที่สุด
เห็นได้ว่าเป็นงานที่พิมพ์สีเหมือนกัน แต่ลงบนกระดาษคนละสี ด้านที่ลงบนกระดาษ KS สีขาว สีมีความคมชัด สวยสดมากกว่ากระดาษข้างที่ลงบนกระดาษ KA สีน้ำตาล

          

แกรมกระดาษคือความหนาของกระดาษลูกฟูกที่ต้องการใช้ซึ่งควรคำนวนถึงน้ำหนักของสินค้าภายในกล่องว่ามีขนาดเท่าไร จากนั้นเลือกแกรมกระดาษให้เหมาะสมกับน้ำหนัก

กระดาษลูกฟูกทำมาจากอะไร


กระดาษลูกฟูก ผลิตมาจาก 'เยื่อกระดาษ' ที่มาจากกล่องกระดาษลูกฟูกที่นำมารีไซเคิลได้ มีโครงสร้าง 2 แบบ
1. "กระดาษแผ่นเรียบ" หรือ Liner Board เป็นกระดาษแผ่นเรียบที่ประกบอยู่ทั้ง 2 ด้านของกระดาษลูกฟูก มีหน้าที่เพื่อให้กระดาษลูกฟูก
มีความแข็งแรงทนทานมายิ่งขึ้น


2. "กระดาษแบบลอนลูกฟูก" มีลักษณะเป็นแผ่นหยักอยู่ระวังกลางของแผ่นเรียบ ซึ่งสามารถอยู่ได้ทั้งแบบ 3 ชั้น แบบ 5 ชั้น มีหน้าที่เพื่อ เพิ่มความยืดหยุ่น
สามารถรองรับแรงกระแทกของน้ำหนักสินค้าด้านใน และ แรงกระแทกของการขนส่งได้

ทำไมกล่องกระดาษลูกฟูกถึงมีความแข็งแรง ?


อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่ากระดาษลูกฟูก ประกอบไปด้วย กระดาษแบบแผ่นเรียบและกระดาษแบบลอนลูกฟูก ทำให้การขึ้นรูปกล่องด้วยกล่องกระดาษลูกฟูก
มีความแข็งแรง ทนทานถึงจะมีน้ำหนักที่เบา แต่สามารถรองรับน้ำหนักได้มาก มีความสามารถในการกระจายแรงน้ำหนักของสินค้าที่มากระทบกับกล่องภายนอกได้ด้วย
พร้อมทั้งมีความสามารถในการรองรับน้ำหนักที่สูงได้โดยที่สินค้าไม่มีการแตกหัก แล้วยังสามารถขนส่งสินค้าโดยกล่องกระดาษลูกฟูกได้อย่างสะดวกสบาย
วางซ้อนกันได้ ประหยัดพื้นที่ แถมยังป้องกันสินค้าเสียหายได้ด้วย

ความหนาของกล่องกระดาษลูกฟูกสำคัญแค่ไหน ?

เป็นสิ่งที่สำคัญในการเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล่องกระดาษลูกฟูกมากขึ้น ช่วยในการปกป้องสินค้าด้านในกล่องระหว่างการขนส่งสินค้าได้เป็นอย่างดี
ยิ่งมีความหนาของกล่องมาก ก็สามารถรองรับน้ำหนักของสินค้า ด้านในกล่องกระดาษลูกฟูกได้มาก
กลับกันหากใช้กระดาษลูกฟูกแบบหนา 3 ชั้น แต่ใส่สินค้าที่มีน้ำหนักเยอะ ก้สามารถทำให้กล่องกระดาษทะลุได้เช่นกัน
เพราะฉะนั้นเราควรต้องเลือกกล่องกระดาษลูกฟูกให้เหมาะสมกับการใช้งาน หรือ เหมาะสมกับน้ำหนักของสินค้าที่ต้องการใส่

กล่องกระดาษลูกฟูกมีหลากหลายแบบ หลายขนาด


กล่องกระดาษลูกฟูก สามารถขึ้นรูปกล่องได้หลากหลายแบบ หลากหลายขนาด ยกตัวอย่างเช่น กล่องลังฝาชน กล่องไดคัทหูหิ้ว กล่องฝาเกย กล่องรองเท้า
กล่องใส่รองเท้า กล่องไดคัทหูช้างและกล่องในรูปแบบอื่นๆอีกมาก ซึ่งแต่ละกล่องมีการใช้งานที่แตกต่างกัน ทั้งขนาดกล่อง
จำนวนและขนาดที่ต้องการใส่ต่อ 1 กล่อง ก็เป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกัน ควรเลือกผลิตกล่องกระดาษลูกฟูกให้มีความเหมาะสมในการใช้งาน
หรือหากต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับการผลิตกล่อง สามารถติดต่อ Kasbox เพื่อปรึกษาเรื่องกล่องได้
เรามีทีมงานผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา แนะนำในการทำกล่องตลอดเวลา


ขนาดของกล่องที่สัมพันธ์กับขนาดของสินค้า

สามารถเลือกขนาดกล่องกระดาษลูกฟูกสำหรับธุรกิจที่ต้องการผลิตเองได้ และควรเลือกขนาดกล่องให้เหมาะสมกับขนาดของสินค้าที่ต้องการใส่ด้วย
เพื่อให้ได้กล่องที่มีความพอดีกับสินค้าจริงๆ และทำให้ใช้งานได้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด การเลือกขนาดของกระดาษลูกฟูก
ที่มีความพอดีกับสินค้า ลดช่องว่างในกล่องให้น้อยลง จะทำให้สินค้าของคุณได้รับการปกป้องได้อย่างดีที่สุด
ทำให้ได้สินค้าถึงมือโดยได้รับความเสียหายน้อย เพราะฉะนั้นการผลิตกล่องที่มีขนาดเหมาะสม จะช่วยปกป้องสินค้า ลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้น
แล้วยังช่วยในเรื่องของความสะดวกสบายในการขนส่งสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย

สัญลักษณ์ Caremark และข้อมูลข้างกล่อง สำคัญยังไง ?

สัญลักษณ์ข้างกล่องหรือที่เรียกว่า Caremark เป็นข้อมูลและคำแนะนำ เกี่ยวกับการจัดการสินค้าด้านในกล่อง
เพื่อบอกผู้ที่ขนส่งสินค้าให้สามารถจัดการกล่องได้อย่างถูกต้อง และป้องกันการเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ด้วย

 

สีของกระดาษลูกฟูก


เกรดสีกระดาษลูกฟูกในปัจจุบันมีให้เลือกมากมาย เกิดจากความแตกต่างในการใช้งานในแต่ละผลิตภัณฑ์
ทำให้เกรดสีของกระดาษลูกฟูกมีความพัฒนามากยิ่งขึ้น สีของกระดาษลูกฟูก มีหลากหลายสีให้ได้เลือก ไม่ว่าจะเป็น เกรด KS , KI , KA , KT , KL และ CA
ซึ่งก็จะเป็นเฉดสีที่แตกต่างกันออกไป แล้วแต่ความสวยงาม ความเหมาะสมในการผลิตกล่องนั่นเอง

แกรมของกระดาษลูกฟูกคืออะไร ?


แกรมของกระดาษลูกฟูก (Grammage) คือความหนาของกระดาษลูกฟูก ที่ถูกพัฒนาให้เหมาะสมในทุกการใช้งาน
ยิ่งมีจำนวนแกรมมากเท่าไร ยิ่งเพิ่มความแข็งแรงของกล่องกระดาษลูกฟูกมากยิ่งขึ้น

วิธีเลือกแกรมกระดาษให้เหมาะสมกับสินค้า


1. ประเภทสินค้าที่ต้องการใส่ ดูในส่วนของสินค้าที่ต้องการใส่ว่ามีน้ำหนักเท่าไร หากเป็นสินค้าที่มีน้ำหนักมาก จำเป็นต้องใช้กระดาษลูกฟูก
ที่มีแกรมมาก เพื่อให้ได้กล่องที่มีความทนทานสูง สามารถรองรับน้ำหนักสินค้าและปกป้องสินค้าด้านในจากการขนส่งได้

2. ขนาดกล่อง เลือกขนาดกล่องที่มีความเหมาะสมกับสินค้า เพื่อลดช่องว่างในกล่องที่อาจจะทำให้สินค้าเคลื่อนที่ แล้วสินค้าเกิดความเสียหายได้
หรือหากใช้ใส่สินค้าที่มีความใหญ่ ก็ต้องเลือกแกรมที่มีเยอะมากขึ้น เพื่อรักษาความคงทนและความแข็งแรงของกล่องไว้

3. การขนส่งกล่องลัง การเลือกความหนาของแกรมส่งผลต่อการขนส่งด้วย อย่างเช่นต้องการใช้กล่องสำหรับสินค้าส่งออก
จำเป็นต้องใช้กระดาษลูกฟูกหนา 5 ชั้น เพราะมีการขนส่งทางไกล จำเป็นต้องป้องกันสินค้าด้านในระหว่างการขนส่ง และ
รักษาคุณภาพของกล่องให้ดีมากที่สุด

เลือกใช้เกรดกระดาษให้เหมาะสมกับสินค้าและดีไซน์การพิมพ์

อย่างที่รู้กันดีว่าเกรดกระดาษลูกฟูกมีหลายสี ตั้งแต่สี KS , KI , KA , KT , KL และ CA ซึ่ง แต่ละแบบถูกพัฒนามาเพื่อให้เหมาะสมกับสินค้าแต่ละชนิด
การเลือกเกรดกระดาษด้านนอกก็สำคัญกับการพิมพ์สี และองค์ประกอบอื่นๆเหมือนกัน จะมีอะไรบ้างไปดูกัน

- เกรดกระดาษ KS กรือ กระดาษสีขาว มีความสะอาดสามารถพิมพ์สีลงบนกระดาษลูกฟูกได้สวยงาม มีสีสันชัดเจนมากที่สุด
ทำให้กล่องดูโดดเด่นสวยงาม เพิ่มมูลค่าให้สินค้าสวยงามโดดเด่นมากขึ้น

- เกรดกระดาษลูกฟูก KA สีน้ำตาลสำหรับส่งออกในประเทศ จะมีสีน้ำตาลออกส้ม เป็นกล่องที่สามารถกันความชื้นได้หรือกล่องที่ต้องเข้าห้องเย็น
เเกรมมาตรฐานของเกรดนี้คือ 125 เเกรม

- การใช้งานกล่องกระดาษได้อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้กล่องที่สามารถดีไซน์ได้อย่างโดดเด่น สวยงาม และสามารถปกป้องสินค้าด้านในได้อย่างดี
ทำให้สินค้าด้านในมีความปลอดภัย เพิ่มความน่าประทับใจให้กับผู้รับสินค้ามากขึ้น

 เกร็ดความรู้ในการเลือกผลิตกล่องกระดาษลูกฟูก


1. เลือกลอนของกระดาษลูกฟูก
กระดาษ 3 ชั้น ลอน E มีความหนาอยู่ที่ 1.5 - 2.2 มม. สามารถรับน้ำหนักได้ ไม่เกิน 1 Kg. เหมาะสำหรับ กล่องไดคัทที่มีขนาดเล็ก
กระดาษ 3 ชั้น ลอน B มีความหนาอยู่ที่ 2.5 - 3 มม. สามารถรับน้ำหนักได้ไม่เกิน 2 - 4 kg. เหมาะสำหรับกล่องไดคัทขนาดกลาง
กระดาษ 3 ชั้น ลอน C มีความหนาอยู่ที่ 3.5 - 4 มม. สามารถรับน้ำหนักได้ ไม่เกิน 10 Kg. เหมาะสำหรับ กล่องฝาชนขนาดทั่วไป รับน้ำหนักได้ปานกลาง
กระดาษ 5 ชั้น ลอน BC มีความหนาอยู่ที่ 5.5 - 6 มม. สามารถรับน้ำหนักได้ตั้งแต่ 10 kg. ขึ้นไป เหมาะสำหรับกล่องไดคัทขนาดกลาง

2. เลือกเกรดกระดาษให้เหมาะสมกับสินค้า
เลือกเกรดกระดาษหรือสีของกระดาษ ให้เหมาะสมกับสินค้าที่ต้องการ เช่น หากต้องการใส่สินค้าที่มีความชื้น หรือต้องส่งของผ่านตู้เย็น ที่อาจมีความชื้น
ควรใช้เป็นกระดาษลูกฟูก KA สีน้ำตาลออกส้ม ที่มีความสามารถในการกันความชื้นได้ หรือ หากต้องการกล่องที่สามารถพิมพ์สีลงบนกล่องได้คมชัด สีสวย
ควรเลือกใช้กระดาษลูกฟูก KS สีขาว เพราะ กระดาษมีความสะอาด มีความคลีนพิมพ์สีอะไร สีติดสวย

3. รักษ์สิ่งแวดล้อม กระดาษลูกฟูกรีไซเคิลได้ และสีพิมพ์ที่ Kasbox บำบัดได้ง่ายกว่า
Kasbox ใช้ "สีน้ำ" ในการพิมพ์กล่องกระดาษลูกฟูก ซึ่งคุณสมบัติของสีน้ำคือสามารถย่อยสลายได้ง่ายและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
เป็นสีที่มีความคงทนอย่างมาก เหมาะกับการพิมพ์กล่องเยอะๆ และ ใส่สินค้าหลากหลายประเภท โดยเฉพาะสินค้าที่เกี่ยวข้องกับอาหารหรือสินค้าที่ต้องการกล่องบรรจุภัณฑ์ที่ไม่มีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค


จำนวนแกรมกระดาษของ Kasbox

แกรมเกรด KS(สีขาว)

แกรมมาตรฐาน 140G , 170G

แกรมเกรด KA
แกรมมาตรฐาน 125G , 150G , 185G และ 230G

แกรม เกรด KI
แกรมมาตรฐาน 125G , 150G และ 185G

แกรม เกรด KL
แกรมมาตรฐาน 125G , 150G , 205G